วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

วัดโพธิ์แมนคุณาราม

วัดโพธิ์แมนคุณาราม 普 門 報 恩 寺 (โพวมึ้งป่ออึงยี่)เป็นวัดจีนในศาสนาพุทธ เผยแผ่พุทธศาสนานิกายมหายาน 大乘教理



สารบัญ
ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 323 ถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย19 (ซอยวัดโพธิ์แมน) เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10120



สถานที่ตั้ง
เริ่มก่อสร้างสถาปนาวัดเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยมีพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) อดีตเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย รูปที่ 6 เป็นผู้นำสร้าง พร้อมด้วยคณะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้า ประชาชนตลอดจนพุทธบริษัทชาวไทยและจีน ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2503 มีเนื้อที่เนื้อที่ 12 ไร่เศษ ใช้ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท ได้รับพระรา! ชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธียกยอดฉัตรเจดีย์อุโบสถ และ พระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร" ประดิษฐานหน้าบันอุโบสถ ปีพ.ศ. 2514 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามพระประธานอุโบสถว่า "พระพุทธวัชรโพธิคุณ" และในปีเดียวกันนี้ สมเด็จพระสังฆราช (อุฏฐายีมหาเถระ) ทรงพระกรุณาพระราชทานเป็นว�! �ดพัฒนาดีเด่นพร้อมประกาศ นียบัตรจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการแด่ท่านเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย (โพธิ์แจ้งมหาเถระ) ที่ได้สร้างและพัฒนาวัดจนเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง



เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
การเดินทางใช้ทางด่วนขั้นที่ 1 ลงที่ถนนสาธุประดิษฐ์ แล้วกลับรถทางขวาวกกลับผ่านเซ็นทรัลพระราม 3 ถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 25 เปิดให้เยี่ยมชมได้ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. โทร. 02-331-6807-8


วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

หมากรุกไทย

หมากรุกไทย เป็นเกมกระดานที่พัฒนามาจากหมากรุกของอินเดียที่ชื่อเกมว่าจตุรงค์ ลักษณะการเล่นเกมใกล้เคียงกับหมากรุกฝรั่ง นอกจากนี้ในประเทศกัมพูชามีเกมหมากรุก ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับหมากรุกไทยนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย
หมากรุกไทย มีประวัติเริ่มในอินเดีย โดยมาจากตำนานของรามเกียรติ์ ตามตำนานกล่าวว่า ฝ่ายทศกัณฐ์นั้น เมื่อมีศึกเข้าประชิด นางมณโฑ มเหสีของทศกัณฐ์ เห็นทศกัณฐ์เครียดกับการศึกจึงคิดหาเกมให้สวามีได้ผ่อนคลาย โดยคิดเป็นเกมหมากรุกขึ้น โดยแต่เดิมใช้คนเล่น 4 คน เรียกว่า จตุรงค์ แต่ในภายหลังได้รับการปรับปรุงจนสามารถใช้ผู้เล่นเพียง 2 คนได้



สารบัญ

ขุน เป็นตัวหมากรุกที่สำคัญที่สุด มีการเดินและกินไปในทิศทางรอบตัวได้ แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปในตากินของฝ่ายตรงข้ามได้
เม็ด มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้าน
โคน มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้านและเดินไปทางข้างหน้า
ม้า มีการเดินและกินเป็นรูปตัว L ในทิศทางรอบตัว สามารถข้ามหมากตัวอื่นได้
เรือ มีการเดินและกินไปในแนวตั้ง-แนวนอน ระยะยาว ไม่สามารถเดินข้ามตัวอื่นๆได้
เบี้ย มีการเดินไปทางข้างหน้าและกินในแนวทแยงด้านหน้า เมื่อเบี้ยไปถึงแนววางเบี้ยของฝ่ายตรงข้ามจะกลายเป็นเบี้ยหงาย และมีการเดินและกินเช่นเดียวกับเม็ดทุกประการ

ตัวหมากรุก

ผู้เล่นแต่ละคนผลัดกันเดินหมากของฝ่ายตนเองครั้งละ 1 ตัว
ถ้าเดินหมากของฝ่ายตัวเองไปในตำแหน่งที่หมากของฝ่ายตรงข้ามตั้งอยู่ หมากของฝ่ายตรงข้ามจะถูกกินและนำออกนอกกระดาน ยกเว้นขุนจะถูกกินไม่ได้
ถ้าเดินหมากไปในตำแหน่งที่ตาต่อไปสามารถกินขุนของฝ่ายตรงข้ามได้ จะเรียกว่ารุก โดยตาต่อไปฝ่ายตรงข้ามต้องป้องกันหรือเดินหนีไม่ให้ขุนอยุ่ในตำแหน่งที่จะถูกกิน
ถ้าขุนถุกรุกอยู่และไม่สามารถเดินหนีหรือป้องกันการรุกได้ จะถือว่ารุกจนและเป็นฝ่ายแพ้
ถ้าขุนไม่ถูกรุก แต่ในตาต่อไปไม่สามารถเดินหมากตัวใดๆได้เลย จะเรียกว่าอับ และจะเสมอกัน

การนับศักดิ์
การนับโดยวิธีนี้ไม่ว่าจะมีตัวหมากอยู่บนกระดานกี่ตัวก็ตามให้เริ่มนับตั้งแต่ 1 เป็นต้นไปโดยฝ่ายเป็นรองเป็นผู้นับฝ่ายเดียว เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำโดยฝ่ายเป็นรองหลือหมากตั้งแต่สองตัวขึ้นไปให้เริ่มนับศักดิ์กระดานตั้งแต่ 1 ถึง 64 โดยฝ่ายเป็นต่อจะต้องรุกให้จนใน 64 ตามิเช่นนั้นให้เสมอกัน ถ้าระหว่างนับศักดิ์กระดานฝ่ายเป็นรองถูกกินหมากตัวอื่�! ��จนเหลือขุนเพียงตัวเดียวให้เปลี่ยนมานับศักดิ์หมาก เมื่อเริ่มนับศักดิ์กระดานแล้วฝ่ายเป็นต่อกลับกลายเป็นรองก็มีสิทธ์นับศักดิ์กระดานเพื่อหาเสมอได้



การนับศักดิ์หมาก

หมากรุก

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

เอไอเอ็ม-120

AIM-120 AMRAAM (Advanced Middle Range Air to Air Missiles) เป็นจรวดอากาศสู่อากาศ นำวิถีพิสัยกลาง นำวิถีด้วยเรดาร์ ปฏิบัติการได้ทุกกาลอากาศ สามารถติดตั้งกับ เครื่องขับไล่ และสามารถโจมตีเป้าหมายที่บินในระยะต่ำได้อย่างดี โดยสามารถแยกแยะเป้าหมายออกจากสิ่งแวดล้อมได้ นักบินสามารถควบคุม AMRAAM ได้หลายนัดในการโจมตีเป้าหมายในเวลาเดียวกัน มีความเร็วประมาณ 4 มัค และมีรัศมีปฏิบัติการมากกว่า 20 �! �มล์ สามารถตอบโต้การต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ในขณะเข้าหาเป้าหมายได้ ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบเชื้้อเพลิงแข็ง นำวิถีด้วยเรดาร์ (Active Radar) หัวรบเป็นดินระเบิดแรงสูงขนาด 84 ปอนด์ จรวดมีความยาว 84 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 นิ้ว มีน้ำหนักรวม 335 ปอนด์
อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) เป็นอาวุธนำวิถีระยะปานกลาง นำวิถีด้วยเรดาร์แบบ Active radar-guied สามารถยิงได้ทุกทิศทุกทาง (all-aspect) และเหมาะกับการใช้งานในทุกกาลอากาศ (all-weather) ดินขับชนิดแข็ง (solid propellant) และหัวรบแบบระเบิดแรงสูงและทำลายด้วยสะเก็ดระเบิด (fragmentation warhead)
อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) ได้มีการวิจัยและพัฒนาโดยอาศัยคุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธนำวิถี AIM-7 Sparrow เป็นต้นแบบ ได้พัฒนาให้มีความเร็ว ระยะยิง ขีดความสามารถในการนำวิถีเข้าหาเป้า รวมทั้งมีการต่อต้านการรบกวนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ดีกว่า AIM-7 อีกทั้งยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบนำวิถีให้มีความแน่นอน โดยพัฒนา SEEKER ที่จับและติดตามเป�! �าแบบ Active Radar ให้สามารถจับและติดตามเป้าแบบ Track-while-scan ทำให้สามารถจับและยิงเป้าได้พร้อมกันหลายๆเป้า
อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) ได้รับการพัฒนาให้ติดตั้งได้กับ เครื่องบินรบ หลายแบบ เช่น เครื่องบินรบ F-14, F-15, F-16 และ F/A-18 รวมทั้งได้มีการดัดแปลงให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินรบของทางยุโรป เช่น JA-37 Viggen, JAS 39 Gripen, F-4 Tornado, Hawk 200, Eurofighter 2000 เป็นต้น

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

ทวนทมิฬ

ทวนทมิฬ(霸王槍)เป็นนิยายกำลังภายในที่แต่งโดยโกวเล้ง(古龍) ตีพิมพ์ในปี1975 ทวนทมิฬ ตอนที่เจ็ด ของสุดยอดอาวุธทั้งเจ็ด
ทวนทมิฬ เป็นของ เฮ้งตั่วเสียวเจี๊ยะ



สาวก

ส่วนหนึ่งของ
พุทธศาสนา
พระพุทธเจ้า
เพื่อความดับทุกข์ · นิพพาน
ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส
พระพุทธ · พระธรรม · พระสงฆ์
สาวก แปลว่า ผู้ฟัง คือผู้ฟังตามครูบาอาจารย์ผู้สั่งสอนหลักธรรม ใช้สำหรับบุรุษ ถ้าเป็นสตรีใช้ว่า สาวิกา
สาวก ในคำวัดใช้หมายถึงผู้ฟังโอวาทนุสาสนี หรือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าโดยเคารพ ใช้เรียกทั้งที่เป็นบรรพชิตและคฤหัสถ์ เช่นใช้ว่า พระอรหันตสาวก พระสงฆ์สาวก ภิกษุสาวก ภิกษุณีสาวิกาและใช้หมายถึงลูกศิษย์ของศาสดาอื่นๆ ด้วย เช่นวสาวกของนิครนถ์นาฏบุตร สาวกของพราหมณ์พาวรี
สาวก ในคำไทยใช้หมายรวมไปถึงลูกศิษย์ ลูกน้อง ผู้ติดตามนักบวชนักบุญผู้มีชื่อเสียงตลอดถึงผู้มีอำนาจ เช่นใช้ว่า
"เจ้าสำนักแห่งนั้นมีชื่อเสียงไม่น้อยจึงมีสาวกอยู่ทั่วไป"



คาเมนาชิ




สารบัญ

ชื่อภาษาอังกฤษ : Kamenashi Kazuya
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 亀梨和也
ชื่อเล่น : คาเมะ, คาซึยะ, คาเมะจัง
วันเกิด : 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1986
สถานที่เกิด : จังหวัดโตเกียว ประเทศญีปุ่น
ส่วนสูง : 169 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 51 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด :B
เข้าจูเนี่ยร์เมื่อ : 8 พฤศจิกายน ค.ศ.1998
ยูนิต : 「J2000」「KAT-TUN」「ชูจิโตะอากิระ 修二と彰 」
ครอบครัว : คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย 2 คน น้องชาย 1 คน
กีฬาโปรด : Baseball
เพื่อนสนิท : อาคานิชิ จิน อ้อจัง
รุ่นพี่ที่ชื่นชม : คิมุระ ทาคุยะ (SMAP), & โมริตะ โก (V6)
Debut : 22 มีนาคม ค.ศ.2006

Profile : ข้อมูลส่วนตัว

Tatta Hitotsu no Koi [たったひとつの恋] (NTV : 2006.10.14~12.16)
Yuuki [ユウキ] (NTV : 2006.08.26)
Sapuri [サプリ] (FujiTV : 2006.07.10~09.18)
Nobuta wo Produce [野ブタ。をプロデュース] (NTV : 2005.10.15~12.17)
Kindaichi Shonen no Jikenbo~Kyuuketsuki Densetsu Satsujin Jiken (NTV : 2005.09.24) [金田一少年の事件簿 吸血鬼伝説殺人事件]
Gokusen 2 [ごくせん 第2] (NTV : 2005.01.15~03.19)
3 nen B gumi Kinpachi sensei 5 [ごくせん 第2] (TBS : 1999.10~2000.03)

TV : รายการโทรทัศน์


SKY PerfecTV! (2006) スカイパーフェクト・コミュニケーションズ
Za Television (2006) ザ・テレビジョン
DoCoMo (2006) エヌ・ティ・ティ・ドコモ

「FOMA902i」 (2005、2006)
「FOMA9series」 (2006)
「FOMA903i」 (2006)
Contact Lens Solution
ROHTO Lipbalm (MENTHOLATUM)

Mokitate kajitsu 「もぎたて果実」 (2005)
ROHTO C cute 「ロートCキューブ」 (2005)
ROHTO Zi 「ロートZi」 (2006)
Oronamin C 「オロナミンC」(2005)
Nintendo Gamecube Dance Dance Revolution (2005)
Lotte 「ロッテ」

Crunky Chocolate (2002~2006)
Plus-X (Green Apple, Blue Citrus, Pink Berry)(2002~2006)

งานเพลง


KAT-TUN 1st in New York (photographer Harumi Yoshimura) (2003.12)

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

หลวงปู่ยิ้ม
สารบัญ
หลวงปู่ยิ้ม เป็นชาววังด้ง จ.กาญจนบุรี เกิดปีมะโรง เดือนห้า วันอังคาร พ.ศ. 2387 เป็นบุตร นายยิ่ง นางเปี่ยม บิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องไปขายที่ปากอ่าวแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม เมื่อวัยเด็กท่านมีอุปนิสัยใจคอเป็นคนเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ เป็นนักเลง พูดจริงทำจริง เด็กรุ่นเดียวกันหรือแก่กว่ายอมยกให้เป็นลูกพี่ ท่านได้เป็นกำลังช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม�! ��ไผ่ล่องไปขายทางปากอ่าว จนคุ้นเคยกับชาวแม่กลองเป็นอันดี




ชาติภูมิ
ครั้นได้อายุครบบวช ได้อุปสมบทที่วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยมี พระอาจารย์กลีบ วัดหนองบัว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง วัดเหนือ และพระอาจารย์อินทร์ วัดทุ่งสมอ เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า จนฺทโชติ เมื่อบวชเรียนแล้วเรียนอักษรขอม ภาษาบาลี มงคลทีปนี มูลกัจจายน์ พระมาลัย พระเจ้า 10 ชาติ ท่องสูตรสนธิจนช่ำชอง สามารถท่องจำพระปาฏิโมกข์สวดได้แต่พรร�! ��าที่ 2 ด้วยท่านชอบวิชาความรู้ จึงได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์แดงพระคู่สวดว่า เมืองบางช้าง (สมุทรสงคราม) มีพระอาจารย์เก่ง ๆ หลายวัด วิชาแขนงต่าง ๆ ไม่ซ้ำกัน ท่านจึงได้มุ่งมาทางเมืองบางช้าง ซึ่งท่านมีความคุ้นเคยอยู่ตั้งแต่สมัยที่ติดตามครอบครัวล่องแพไม้ไผ่ไปขาย
วัดแรกที่ท่านเข้าไปศึกษา คือ วัดบางนางลี่น้อย อำเภออัมพวา มีหลวงพ่อพระปลัดทิม อุปัชฌาย์เก่าแก่ของวัด เรียนทางน้ำมนต์โภคทรัพย์ ยุคนั้นเชื่อว่าใครได้อาบน้ำมนต์วัดนี้ คนจนก็จะรวย ถ้าเป็นขุนนางก็จะได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ พระปลัดทิมมีวิชาทำผงทางเมตตามหานิยม และวิชาโหราศาสตร์ ฤกษ์ล่าง ฤกษ์บนต่างๆ ปัจจุบันวัดนี้ได้ถูกน้ำเซาะตลิ่งจมหายไปในแม่น้! ำแม่กลองแล้ว วัดต่อมาคือ วัดลิงโจน ต่อมาเรียกว่า วัดปากสมุทรสุดคงคา คืออยู่ปากอ่าวแม่กลอง กับหลวงพ่อพ่วง ท่านมีวิชาทำธงกันอสุนีบาตสายฟ้า และพายุคลื่นลม ชาวเรือทะเลนับถือมาก วิชาหวายลงอักขระของท่าน ทำเป็นรูปวงกลม ว่ากันว่าเวลาขาดน้ำจืด เอาหวายโยนลงทะเลแล้วตักน้ำ ภายในวงหวายจะได้น้ำจืดทันที ลูกอมหมากทุย ก็ลือชื่อ หลวงพ่อรูปนี้สำเร็จจินดามณี�! �นต์เรียกปลาเรียกเนื้อได ้แบบพระสังข์ทอง อาจารย์ต่อมาคือหลวงพ่อกลัด วัดบางพรม อัมพวา เรียนทางมหาอุด ผ้าเช็ดหน้าทาง มหานิยม เชือกคาดเอวถักเป็นรูปกระดูกงู กันเขี้ยวงาและทางคงกระพันชาตรี ท่านองค์นี้ย่นหนทางได้ ข้ามแม่น้ำลำคลองไม่ต้องใช้เรือแพ และ หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ อัมพวา เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูติผีปีศาจ ทางมหาประสาน เชือกคาดชื่อตะขาบไฟหรือไส้หนุมาน มีดต�! ��กรุดคู่อยู่หัวเชือก จากนั้นท่านยังได้ไปศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ในถ้ำพุพระ (ถ้ำขุนแผน)เมืองกาญจนบุรี พระอาจารย์องค์นี้มีอายุร้อยกว่าปี ชำนาญอภิญญามีอิทธิคุณถึงล่องหนหายตัวได้ ตามประวัติบันทึกของพระโสภณสมาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อยิ้มชอบทางรุกขมูลธุดงค์วัตร ออกพรรษาแล้วเข้าป่าเจริญสมาธิในป่าลึก ท่านรู้จักภาษา นก กา สัตว์ป่าทุกชนิด จิตกล้าเข้าท�! �กที จะทำเครื่องรางชนิดใ� �ก็ขลังไปทุกอย่าง"



การสร้างพระเครื่องรางของหลวงปู่ยิ้ม
ส่วนเมืองสมุทรสงคราม มี

1. พระโสภณสมาจาร (เหรียญ) ศิษย์ต้นกุฏิ ซึ่งท่านใช้ให้ลงเครื่องรางของขลัง ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ยิ้มยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังเป็นพระอาจารย์ให้ศีลแก่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เมื่อครั้งบรรพชาเป็นสามเณร
2. พระเทพมงคลรังษี (ดี) วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ)อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นพระอุปัชญายะให้แก่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งยังเป็นสามเณร
3. พระกาญจนวัตรวิบูลย์ (สอน) วัดลาดหญ้า
4. พระโสภณสมณกิจ (หัง) วัดเหนือ
5. พระครูวัตตสารโสภณ (ดอกไม้) วัดดอนเจดีย์
1. พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ อดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เล่ากันว่าได้รับความชมเชยจากท่านว่านั่งไส้เทียนขาดเร็วกว่าท่านด้วย พระราชมงคลฯ เป็นศิษย์ของหลวงพ่อจุ้ย วัดบางเกาะ อัมพวา ไปเรียนวิชาลูกอมแล้วท่านคิดสินสอดไหม 5 สี เป็นปัญจศีล 5 เพิ่มขึ้น พระราชมงคลวุฒาจารย์ อายุยืนถึง 100 ปี มีคนเคารพนับถือมาก
2. พระอธิการแช่ม โสฬส วัดจุฬามณี อัมพวา ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม เป็นอาจารย์รุกขมูล ไปพบหลวงพ่อยิ้ม กลางป่าเขตเมืองกาญจนบุรี สอบนั่งเพ่งไส้เทียนขาดได้ จึงได้วิชา พระอธิการแช่มเก่งทางสร้างตะกรุดใบลาน และตะกรุดหนังลูกวัวตายท้องกลม
3. พระครูสกลวิสุทธิ์ (เหมือน รัตนสุวรรณ) วัดกลางเหนือ อำเภอบางคนที อายุยืนถึง 97 ปี ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อกลัดวัดบางพรม สอบไล่ได้ลูกอมมา หลวงพ่อองค์นี้ทางเมตตามหานิยม ผงอิธะเจ มหาราช ปถมัง เก่งมาก ผ้าเช็ดหน้า ธงค้าขาย ก็มีชื่อเสียง นอกจากที่กล่าวมานี้ยังมีอีกหลายรูป
อำเภอเมืองนนทบุรี

อักษรครี (Cree syllabary )ประดิษฐ์โดย เจมส์ อีวาน มิชชันนารีที่ทำงานที่ "บ้านนอร์เวย์" ในอ่าวฮัดสัน เขาประดิษฐ์อักษรสำหรับภาษาโอจิบเวขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2383 เขาพยายามใช้ระบบการออกเสียงของอักษรโรมันเป็นพื้นฐาน แต่ที่ได้ผลคืออักษรแทนพยางค์ ที่บางส่วนอาศัยพื้นฐานจากชวเลข อักษรโอจิบเวประกอบด้วยสัญลักษณ์ 9 ตัว แต่ละตัวเขียนได้ 4 ทิศทาง เพื่อแสดงเสียงสระที่ต่างออกไป �! �ึ่งเพียงพอสำหรับภาษาโอจิบเว
อีก 20 ปี ต่อมา อีวานส์เรียนภาษาครี และพยายามหาทางเขียนภาษานั้น เขาทดลองใช้อักษรโรมันแต่ไม่สำเร็จ จึงนำอักษรโอจิบเวมาปรับปรุง และประสบความสำเร็จอย่างมากในหมู่ชาวครี จนอีวานส์ได้รับสมญาว่า "ชายผู้ทำให้เปลือกของต้น birch ได้"



ใช้เขียน

ภาษาครี

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

โอ๊ทส์!

โอ๊ทส์! ทาทาคาเอะ! โอเอนดัน (「押忍!闘え!応援団」, โอ้! สู้! ทีมเชียร์, 押忍!闘え!応援団)ซึ่งได้วางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2007



สารบัญ
พื้นฐานในการเล่นเกมโอ๊ทส์! ทาทาคาเอะ! โอเอนดันนั้นในแต่ละด่านจะมีดนตรีบรรเลงขึ้นมาและมีปุ่มกดขึ้นมาบนหน้าจอและมีวงกลมสีเดียวกับปุ่ม โดยหน้าที่ของผู้เล่นคือกดปุ่มสีสามลำดับเลข โดยกะจังหวะตามเพลงให้วงกลมรอบนอกเข้ามาบรรจบตรงปุ่มพอดี นอกจากนั้นยังมีแบบลาก (กดค้างแล้วลากตามทาง) กับหมุน (กดค้างแล้วหมุน) ซึ่งถ้าผู้เล่นทำสำเร็จก็จะได้รับคะแนนตาม�! �ังหวะที่กด (หากกดช้าหรือเร็วเกินไปจะทำให้ได้คะแนนน้อยลง) และตัวละครจะทำท่าเชียร์แบบญี่ปุ่นตามจังหวะดนตรี แต่ถ้าผิดผู้เล่นจะเสียเกจกำลังใจด้านบน ซึ่งเมื่อเล่นไปซักพักเกมจะตัดเข้าสู่เนื้อเรื่อง ซึ่งถ้าเกจกำลังใจไม่ลดมากเกินไป (ถึงระดับที่ตัวละครก้มหน้าไม่ยอมเต้นเชียร์) ตัวละครก็จะได้รับคำชมหรือกำลังใจหรือกระทำบางอย่างสำเร็จ แต่ถ้าเกจกำลั! งใจลดมากเกินไปตัวละครก็� ��ะทำผิดพลาด ซึ่งทั้งหมดจะนำมาคำนวณคะแนนเมื่อจบด่านนั้นๆ ซึ่งถ้าเกจกำลังใจลดลงจนหมดก็จะแพ้ในด่านนั้นๆ



ระบบของเกม
ตัวละครในเกมโอ๊ทส์! ทาทาคาเอะ! โอเอนดันที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้นั้น เป็นสมาชิกของทีมเชียร์ ซึ่งแต่ละคนจะเปรียบเสมือนระดับความยากของเกม ซึ่งจะแปรตามในแต่ละด่านคือ จำนวนปุ่มกดและเวลาในการกด โดยยิ่งระดับความยากสูงขึ้น จำนวนปุ่มจะมากขึ้นและมีเวลาในการกดน้อยลง

ทานากะ ฮาจิเมะ (田中 一) - ตำแหน่งน้องใหม่ในทีม เป็นตัวละครในระดับความยาก "ง่าย"
อิปปงงิ ริวตะ (一本木 龍太) - ตำแหน่งลีดเดอร์ในทีม เป็นตัวละครในระดับความยาก "ธรรมดา" เขาเป็นตัวละครที่ปรากฏอยู่ในปกหน้าของกล่องเกมและหน้าจอหลักของเกม
โดเมกิ ไค (百目鬼 魁) - ตำแหน่งประธานทีมเชียร์ เป็นตัวละครในระดับความยาก "ยาก" จะให้เลือกเล่นเมื่อจบเกมในระดับธรรมดาและง่าย
ซูซูกิและไซโต้ (鈴木、斉藤) - ปรากฏเคียงคู่กับตัวละครชายทั้ง 3 โดยเป็นลักษณะของผู้ช่วยในการเชียร์ ซูซูกิมีจุดเด่นที่ไว้ผมทรงโมฮอคว์และไซโต้มีจุดเด่นที่ปิดตาข้างหนึ่ง
เชียร์ลีดเดอร์หญิง (チアガールズ) - เป็นทีมพิเศษที่ เป็นตัวละครในระดับความยาก "ยากมาก" จะให้เลือกเล่นได้เมื่อจบเกมในระดับยาก สมาชิกในทีมได้แก่ อาเมมิยะ ซายากะ (ผู้นำ), คันดะ อาโออิ (ใส่แว่น), แอนนา ลินด์เฮิสต์ (ผมบลอนด์)

ทีมเชียร์
เพลงที่ใช้ในเกมโอ๊ทส์! ทาทาคาเอะ! โอเอนดันเกือบทุกเพลงจะมีการเปลี่ยนคนร้องและบางเพลงจะเปลี่ยนจังหวะและทำนองเพื่อให้เข้ากับตัวเกม บางเพลงมีการตัดหรือเพิ่มเนื้อร้องบางส่วน โดยเพลงที่เกมใช้นั้นจะเป็นเพลงประเภทเจป๊อป ของช่วงปี ค.ศ. 1990 - ค.ศ. 2000 ในขณะเดียวกันในแต่ละด่านก็จะมีเรื่องราวซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมและประเพณีของญี่ปุ่นและแต่ละด่าน (ตามลำดั�! ��) ระดับความยากก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ

ループ&ループ (Asian Kung-fu Generation) - นักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
メロディー (175R) - งานประเพณีแข่งมัตสึริ
恋のダンスサイト (มอร์นิงมุซุเมะ) - สาวออฟฟิศกับความหวังจะได้ควงคู่งานเลี้ยงกับหัวหน้าแผนกสุดหล่อ
ガッツだぜ!! (Ulfuls) - ม้าแข่งที่ต้องจับโจรปล้นเงิน
リンダ リンダ (The Blue Hearts) - เจ้าของร้านราเม็งที่ต้องหาทางกอบกู้กิจการ
スリル (โทโมยาสึ โฮเท) - เด็กประถมที่ต้องพิชิตใจเด็กผู้หญิงที่เขาแอบชอบกับนักกีฬาดอดจ์บอลของโรงเรียน
ココロオドル (nobodyknows+) - ช่างปั้นหม้อที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจในการปั้นหม้อ
熱き鼓動の果て (B'z) - ครูโรงเรียนมัธยมปลายที่ต้องการให้สอนเด็กนักเรียนหญิงล้วนเข้าใจถึงความหมายของการศึกษา
狙いうち (ลินดา ยามาโมโตะ) - พระนางคลีโอพัตราที่ต้องการสร้างพีระมิดเพื่อขอพรให้ตัวเองผอม
One Night Carnival (คิชิดัน) - นักไวโอลินที่ต้องสู้กับอาการท้องเสียเพื่อไปแสดงให้ทันเวลา
大切なもの (Road of Major) - ผู้สมัครับเลือกตั้งนายกเขต ที่ต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่ใช้กลโกง
Over the Distance (ไยดะ ฮิโตมิ) - วิญญาณชายหนุ่มขอโอกาสจากพระเจ้า 1 ชั่วโมง ให้ตนสามารถไปบอกรักกับแฟนของเขา
上海ハニー (Orange Range) - ตำรวจสองคนต้องต่อสู้กับกองทัพหุ่นยนต์จากนอกโลก
太陽が燃えている (The Yellow Monkey) - ยอดมนุษย์ซาลารี่แมนที่ต้องช่วยเหลือลูกสาวจากปีศาจหนูยักษ์
Ready Steady Go (L'Arc~en~Ciel) - อุกกาบาตกำลังชนโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมง เป็นหน้าที่ของคนทั้งโลกที่จะรวมพลังปกป้องโลกไว้

เพลงที่ใช้ในเกมและด่านต่างๆ
ดูบทความหลักที่: อีลีทบีทเอเย่นต์
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2006 นินเทนโดและ iNis ได้ทำการผลิตและวางจำหน่ายอีลีทบีทเอเย่นต์ โดยมีรูปแบบการเล่นที่เหมือนกับเกมโอ๊ทส์! ทาทาคาเอะ! โอเอนดัน แต่เปลี่ยนเนื้อหาและเพลงที่ใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตกและปรับปรุงระบบการเล่นโดยรวมอีกด้วย



Elite Beat Agent

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ญี่ปุ่น)
เว็บไซต์ของบริษัท iNis (ญี่ปุ่น)
บทวิจารณ์จากเว็บไซต์ Metacritic (อังกฤษ)
เบื้องหลังการสร้างเกม (อังกฤษ)
เพื่อนสนิท

ดูความหมายอื่นของ เพื่อนสนิท ได้ที่ เพื่อนสนิท
เพื่อนสนิท เป็นเพลงที่นิยมเพลงหนึ่งในปี พ.ศ. 2548 ร้องโดยวงเอ็นโดรฟิน ในอัลบัมแรก "พริก" และยังเป็นเพลงเปิดตัวของวงเอ็นโดรฟินอีกด้วย เพลงนี้สามารถสร้างกระแสนิยม และมีเสียงตอบรับกับเพลงนี้มาก จนสามารถขึ้นอันดับสูงในการจัดอันดับเพลงในสถานีวิทยุหลาย ๆ สถานี ได้อย่างรวดเร็ว
ภาพยนตร์ประกอบเพลง มีเนื้อหาโดยได้เคร้าโครงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น โดยแสดงถึงความสำพันธ์ระหว่างชายหญิงสองคน ที่มีความผูกพันธ์ในลักษณะเพื่อน โดยฝ่ายหญิง รู้สึกผูกพันกับฝ่ายชายมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่ฝ่ายชายไม่ได้คิดอะไร เมื่อมีคนมาชอบฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงพยายามทำตัวเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเมื่อฝ่ายหญิงบอกความจริง ทำให้ฝ่ายชายรู้ความจริง!

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

Venting

Have you ever really hated someone and didn't know why? You've never really spoken to the person and so you can't say for sure whether or not he or she is a decent human, but for some strange reason you harbor contempt for that person anyway.

Well, this is how I feel about N. This old woman who co-teaches a class with my belly dance instructor. The few words that I've spoke with her were harmless small talk and she never said anything wrong to me but I just don't like her face. I'm serious.
I've gone over everything in my head that may be the cause of this, that maybe I'm jealous that she's teaching at the studio and not me, that it's possible I'm jealous that she's a good dancer and frequent performer, since I haven't performed in over a year; that I'm letting jealousy get the best of me, but that's not it.

She's a shy woman who just doesn't have what it takes to teach. And forgive me for being so mean, but at least I am studying the reason for these feelings instead of just lashing out, right?. I stand there copying her moves and watching her, her serious face, her proud shimmies moving into a hip roll, vibration, undulation, and her expressions thinking this woman is just SO full of her self! And when I first saw her I thought nothing more than here's a very shy woman who studied this dance for years and I watched as it strengthened her confidence. But I simply HATE HATE HATE taking her classes and I have no other choice but to stand there and copy her because there aren't that many advanced classes there after all. What I hate the most is she's a 'show offy' teacher. I mean she teaches one move, goes right into the next, and keeps it going so that we're all struggling to catch up and then when she teaches a really advanced move, well she doesn't even teach it all, she shows it, tells everyone to do it and then laughs to herself if she doesn't like the outcome and says something like "no don't do it.. forget it ... we'll move on to something else". Grrrrrrrr... And to be really mean I will say she's nothing to look at so when she tries to make seductive faces while she dances, it makes me want to laugh out loud. Ugh, I know I'm horribly mean.
It's been a long time and still I can't rid myself of the utter disgust I have every time she takes to the center and begins to teach. Even at the time in my life when I was performing and doing well I still dreaded having to warmup with her. It's so frustrating. Good thing it's over. Pray that next week I don't lose my head otherwise you'll get another vent.

Tuesday, April 17, 2007

My dreams & Dali

I had a dream about you the other night. We were on a beach somewhere, maybe in Thailand because we kept making plans to go there. It was beautiful and sunny but we were fighting and I don't remember what about, probably the usual; the what and where of our relationship. What will we do together and where can we go since we can't live in each other's home country. We were on the beach and you were walking away from me with your head down, the way I've seen you some times before. From a distance, I saw a big wave coming. Tsunami, straight ahead! I pointed and my heart dropped because I couldn't get your attention. The wave came up and washed over you and I watch in horror and then relief because it didn't take you back; it just washed over you and left you drenched and in both shock and relief.
I had the same dream of a Tsunami washing over you, but not taking your life again a couple of nights later.

In "The Road Less Traveled", the book R. told me to read. Mr. Peck says that your dreams are a direct link to the current issues that you have; a clue to unfolding things your conscious doesn't want to deal with. He says that dreams can often offer us solutions or merely remind you of things you need to deal with as surreal as they may seem.

My dreams have always been as easy to dissect as a Dali painting; it dares to attract you and once it does - sucks you into a world of melting clocks, fierce tigers, naked characters and a mixture of images that can have a thousand different meanings.

This was the first dream I had in a long time that wasn't Dali. Was the wave our problems? Were they washing over you, tormenting you? Or do you feel like a great weight has been lifted after emerging?
There I was, waiting on the sand for you; hoping for your survival, and here I am still contemplating the dream that was us.